กุ๊บกิ๊บ เคลียร์ดราม่า หลังบอกชอบโควิด ได้กักตัวอยู่บ้าน

กุ๊บกิ๊บ เคลียร์ดราม่า หลังบอกชอบโควิด ได้กักตัวอยู่บ้าน

กุ๊บกิ๊บ- กลายเป็นดราม่าเล็กๆ ขึ้นมาหลังจากที่ นานา ไรบีนา ออกมาแชร์เรื่องราวดีๆ หลังจากสถานการณืการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ต้องกักตัวอยู่บ้าน พร้อมกับครอบครัวลงอินสตาแกรมว่า

“ปกติการเจอกันทั้งวัน กินข้าวด้วยกัน 3 มื้อ เห็นหน้ากันทั้งกลางวันกลางคืนสำหรับคู่เรามันคือน้อยมาก และนี่คือเรื่องแปลกใหม่มากๆและท้าทายชีวิตคู่ของเรามากๆเช่นกัน ปีนี้ปีที่ 10 แห่งการใช้ชีวิตคู่กันมา เอาจริงๆเห็นหน้ากันเยอะสุดก็ช่วงนี้แหละ งงมะแต่กลายเป็นเถียงกันน้อยลง เพราะว่าว่างงานทั้งคู่ เลยไม่รู้จะเถียงกันเรื่องอะไร เพราะทุกเรื่องมีมุมที่ดีเสมอแหละ #JustBePositive #เราต้องรอด 30-03-2020 @daboyway ขอแชร์คู่อื่นๆบ้างนะคะ อยากอ่านว่าแต่ละคู่เป็นไงกันบ้าง”

ต่อมาทางด้าน กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า 

“ทางนี้แอบชอบมากเรื่องโควิดและต้องกักตัวอยู่บ้านโดยเฉพาะลูก555555555นางมีความสุขสุดๆ” จนกลายเป็นดราม่าเล็กๆ ขึ้น และมีคนไม่พอใจที่เจ้าตัวพูดแบบนี้ ภายหลังกุ๊บกิ๊บก็ได้เข้ามาตอบว่า

“ใจเย็นๆนะคะคนท้องไม่ชอบหรอกค่ะโควิดนะ แต่เราทุกคนหามุมดีๆในสถานการณ์แย่ๆแบบนี้ ข้อดีคือลูกๆเรา หรือแม้กระทั่งตัวเราเองได้อยู่กับครอบครัวมากกว่าปกตินะคะ พี่ก็หามุมดีๆจากเรื่องนี้ให้เจอนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ”

อย่าเครียดนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ คนท้องคนมีลูกเล็กออกไปไหนไม่ได้ ไม่มีใครชอบหรอกค่ะ แต่เด็กๆที่เค้าไม่รู้เรื่องเค้าอาจจะชอบเพราะคิดว่าได้อยู่กับพ่อแม่ พี่ต้องอย่าคิดในทางลบนะคะเดี๋ยวจะยิ่งไม่มีความสุข พี่นานาแชร์ในเรื่องดีๆ เราทุกคนก็ร่วมกันให้เห็นแต่ละมุมดีๆของโรคนี้ที่เกิดขึ้น มันดีนะคะ”

“คุณก็ต้องใจเย็นๆและคิดในแง่ดีนะคะ นี่แค่กำลังตอบรับพี่นานา ว่า ลูกแอบชอบเรื่องที่ได้ทานข้าวอยู่กันพร้อมหน้าและเค้าคิดว่าเพราะโควิดและกักตัวทำให้พ่อแม่ได้อยู่กับเค้าตลอด กิ๊บไม่เดือดร้อนกลัวว่าจะมีเรื่องดราม่านะคะ เพราะว่าคิดว่าทุกคนคงไม่มีใครชอบเรื่องโควิดหรอกค่ะทางนี้ก็ท้องแก่และลูกเล็ก และทางเราก็พยายามคิดดีทำดีมาเสมอพยายามหามุมดีๆในทุกๆเรื่อง แต่ที่มาตอบเนี่ยเพราะเผื่อคนที่กำลังจะคิดไม่ดีหรือเจอเรื่องเครียดๆอยู่ อ่านดูจะได้เบาลง สู้ๆนะคะ”

แต้ว ณฐพร –จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง และทางประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ทั้งอุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ล้างมือ ส่งผลให้เหล่าทีมแพทย์ได้รับความเสี่ยง งานนี้หลายๆ คนรวมถึงเหล่าดาราคนในวงการบันเทิงต่างก็ช่วยเหลือบริจาคเงินเข้ามากันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดนางเอกสาว แต้ว ณฐพร ก็ได้บริจาคเงินให้มูลนิธิ และโรงพยาบาลหลายแห่ง รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 3 ล้านบาท โดยแต้วได้โพสต์สลิปโอนเงินลงอินสตาแกรม และบอกว่า “ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณหมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์คนเก่งของพวกเราทุกท่านนะคะ”

ลิเดีย-แมทธิว เล่าอาการป่วยโควิด-19 รอกลับบ้านไปเจอครอบครัว

หลังจากที่คู่รักคนดัง แมทธิว ดีน และ ลิเดีย ศรัณย์รัชน์ ได้เข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 และตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้วประมาณ 17-19 วัน ตั้งแต่ที่เข้ารับการรักษา ล่าสุดวันที่ 31 มีนาคม ทั้งคู่ก็ได้ออกมาอัดคลิปเล่าถึงอาการตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงพยาบาลให้ฟังจนถึงขณะนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

แมทธิว ได้บอกว่าตนเข้ารักษาวันที่ 13 มีนาคม วันแรกจนถึงวันที่ 4 อาการไม่หนักและไม่มีไข้ ปอดปกติ ออกซิเจนปกติ หมอจึงตัดสินใจว่าจะปล่อยให้หายเอง จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 5 อาการไข้กลับมาไม่สูง และท้องเสีย และเมื่อตรวจเช็คปอดปรากฏว่าเริ่มอักเสบ เชื้อลงปอดแล้ว ทางทีมแพทย์จึงเริ่มให้ทานยาต้านไวรัส ปอดอักเสบอยู่ตรงด้านขวา

ส่วน ลิเดีย แตกต่างกัน คือตนเองมีไข้มาโดยตลอดแต่ไม่ได้สูงมาก คุณหมอเอ็กซ์เรย์ปอด ฟังเสียงปอดปรากฎว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ออกซิเจนปกติ ดูแล้วทุกอย่างน่าจะโอเค แต่พอทำ CT Scan พบว่าปอดทั้งสองข้างเริ่มอักเสบ คือไวรัสเข้าไปในปอดแล้วทำให้ปอดเป็นสีขาวทั้งสองข้าง ต้องเริ่มทานยาทันทีเพราะกังวลว่าจะลุกลาม

ถ้าเลือกได้ทั้งคู่ก็ไม่อยากกินยา เพราะมันมีผลข้างเคียงถ้ากินยาหลายตัว แต่เคสเราคือมีอาการชัดเจน จึงต้องย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ห้องไอซียูเพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด แมทธิวอยู่ประมาณ 2-3 วัน ส่วนลิเดียต้องนอนอยู่ไอซียูอยู่ 5 วัน ตัวยาที่ใช้รักษาคือ ยาต้านไวรัส HIV, ยารักษามาลาเรีย, และยาต้านไวรัสต่างๆ 3-4 ตัว ไข้หาย อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องทานอย่างต่อเนื่อง 10 วัน

อาการของตัวไวรัสเองไม่ได้แสดงอาการมาก มีหายใจขัดๆ บ้างนิดหน่อย มีแค่ผลข้างเคียงของยาคือเวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย ตามัว พอกินยาครบอาการก็หาย ทานข้าวได้เหมือนเดิม แต่ผลยังเป็นบวกอยู่ สิ่งที่ทรมานสุดคือความกลัว กังวลว่าไข้จะกลับมาอีกไหม หรือจะหายไปเอง แต่หมอก็ทำเต็มที่เราเชื่อใจ หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

นอกจากนี้แมทธิวและลิเดียได้บอกว่าอัตราการหายจากโรคโควิด-19 มีตัวเลขคือดีขึ้นทุกวัน เชื้อไวรัสนั้นติดง่ายแต่กว่าจะขับออกจากร่างกายได้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ก็ขอขอบคุณคุณหมอที่ทำการรักษา (ยกมือไหว้) และช่วยชีวิต อยากให้ทุกคนอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัย เพื่อช่วยทีมแพทย์ เพราะบางคนอาการหนักไม่เท่ากัน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน วันนี้ (31 มี.ค.) รอเพียงผลตรวจเชื้อเป็นลบเท่านั้น ทั้งคู่ก็จะได้กลับบ้านไปเจอกับครอบครัวแล้ว

ด้วยขุมพลังที่เพียงพอสำหรับการรองรับแอพด้านการทำงานและความบันเทิงรุ่นใหม่ Acer Veriton Vero มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core™ i9[1] พร้อมด้วย NVIDIA GeForce® MX550​ GPUs และหน่วยความจำ Dual-Channel DDR4 3200 MHz สูงสุด 64 GB 

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป